วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
วันนี้ Admin จะขอรีวิวหูฟังอีกสักตัวครับ แต่คราวนี้จะเป็นอุปกรณ์ของ PS3 แล้ว เป็นรุ่น Pulse Wireless Headset 7.1 Elite Edition ครับ (ชื่อยาวเหลือเกิน ต่อไปขอเรียกว่าหูฟังเฉยๆ พอนะ) ซึ่งเป็นรุ่นที่ 2 ของ Sony แล้วนะครับ รุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงจากรุ่นแรกหลายอย่างมาก ไม่่ว่าจะเป็นดีไซน์ ระบบเสียง และรูปแบบการใช้งานที่รองรับอุปกรณ์หลากหลายขึ้นกว่ารุ่นแรก และมีระบบ Bass Impact ด้วยครับ แกะกล่องมาจะเจอหูฟัง, USB Toggle, สายหูฟัง 3.55 และคู่มือการใช้งาน โดยตัวหูฟังได้รับการออกแบบใหม่ดูทันสมัยกว่ารุ่นแรกเยอะ และมีช่อง 3.5 mm สำหรับเสียบสายเพื่อเอาไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่เครื่อง PS3 ได้
วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
Battlefield 4 เผยเนื้อเรื่องในเกมออกมาแล้ว DICE ปล่อยรายละเอียดของเนื้อเรื่องในโหมดแคมเปญเล่นเดี่ยวของ Battlefield 4 ออกมาแล้วจ้าผ่าทาง Battlefield Blog โดยจากเรื่องราวที่ได้ปล่อยออกมานั้นตัวร้ายตัวเอ้ในภาคนี้น่าจะเป็นทางฝั่งจีนนั่นเองที่เป็นชนวนในการจุดสงครามให้เริ่มขึ้น โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็นจ่า Daniel Recker หนึ่งในสมชิกระดับพระกาฬของหน่วย Tombstone ที่จะต้อง “ผ่านความสับสนอลหม่านที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเพื่อช่วยความหวังสุดท้ายของสันติภาพ” เรื่องย่อ: “ในณะที่ได้ปฎิบัติภารกิจในการล้วงข้อมูลจากนายพลชาวรัสเซียที่ Baku ใน Azerbaijan ทีมของคุณก็ได้พบว่าพวกเขาตกอยู่ในวงล้อมของกองกำลังรัสเซียและต้องตะลุยหลบหนีไปยังเรือรบชั้น Wasp อย่าง USS Valkyrie ให้ได้ ซึ่งเมื่อไปถึงนั้นคุณได้พบว่าข้อมูลที่ทีมได้มานั้นได้บอกว่า นายพล Chang ของประเทศจีนได้กำลังวางแผนที่จะทำการปฎิวัติขึ้น และรัสเซียก็พร้อมหนุนหลังหากมันทำได้สำเร็จ “จากข้อมูลที่ได้มาทำให้ USS Valkyrie นั้นต้องมุ่งหน้าไปยังเซี่ยงไฮ้ทันที โดยคุณและหน่วย Tombstone จะต้องไปปฎิบัติภารกิจลับในการนำบุคคลสำคัญของจีนออกมาจากพื้นที่ๆมีการประท้วงอย่างรุนแรง หลังจากที่ทาง สหรัฐฯได้ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวพันกับการลอบสังหาร Jin Jié อนาคตผู้นำด้านสันติภาพของจีน นายพล Chang จึงได้ล้มการเลือกตั้งและประกาศกฎอัยการศึกขึ้น ทำให้กองเรือสหรัฐฯและรัสเซียต้องถ่อยออกมจากน่านน้ำของจีน ที่สถานการณ์ย่ำแย่ดั่งชนวนสงครามที่รอการจุดระเบิด” โดย 2 ในสมาชิกของหน่วย Tombstone นั้นก็ได้มีการเผยรายละเอียดคร่าวๆมาแล้ว ได้แก่ Clayton Pakowski และ Kimble Graves
วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
HDMI คืออะไร HDMI เป็นระบบการเชื่อมต่อ (สายสัญญาณและช่องต่อ) ภาพและเสียงแบบใหม่ครับ ย่อมาจากคำว่า High Definition Multimedia Interface โดย HDMI จะเชื่อมต่อทั้งสัญญาณภาพและเสียงระบบดิจิตอลไว้ในสายสัญญาณเพียงเส้นเดียว ไม่ต้องต่อหลายสายหลายเส้นให้ยุ่งยาก ให้ความคมชัดของภาพ มีความละเอียด และให้เสียงที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทุกวันนี้ HDMI ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายกับ พลาสม่าทีวี แอลซีดีทีวี TrueVisions HD Home Theatre เครื่องเล่นดีวีดี ฯลฯ แล้ว HDMI มันดีกว่าสายประเภทอื่นๆอย่างไร??? ง่ายๆเลยนะครับ ผมจะเรียงลำดับคุณภาพของสายสัญญาณจากคุณภาพ ต่ำไปหา สูง ดังนี้ครับ 1. สาย RF ที่ต่อจากสายอากาศทีวีบ้านธรรมดานี่แหละครับ ส่งสัญญาณภาพและเสียง 2. สาย Composite หรือ ที่เราเรียกว่าสาย AV นั้นเอง(ไอ้ขาวเหลือแดงนี่แหละครับ) ดีกว่า RF ขึ้นมาหน่อย คือแยกสัญญาณภาพเป็นหนึ่งสาย (เหลือง) และสัญญาณเสียงสองสาย (ขาว แดง) ช่วงวิดีโอ บูมๆ สายขาวเหลิองแดงนี่น่าจะถือว่าดีที่สุดในสมัยนั้น 3. สาย S-video จะดีกว่า AV ขาวเหลืองแดงมาอีกระดับนึงเนื่องจากจะสามารถแยกสัญญาณ สี และ แสง ได้ 4. สาย Component เกิดขึ้นมาในยุคดีวีดีฟีเวอร์ครับ มีสามสายครับ เป็นสายสัญญาณแยกสี RGB (แดง เขียว ฟ้า) ซึ่งให้ความคมชัดในระดับสูงมาก โดยเฉพาะเรื่องสีสัน สายแพงๆ นี่หลายพันเลย 5.ส่วนสายที่จัดได้ว่ามีคุณภาพดีที่สุดในปัจจุบันก็คือคือสาย HDMI จะเชื่อมต่อทั้งสัญญาณภาพและเสียงระบบดิจิตอลแบบไว้ในสายสัญญาณเพียงเส้นเดียว ที่กล่าวถึงมาข้างต้นนี่เองครับ
เมื่อพูดถึงซีรีย์ Need for Speed หลายๆ คนก็จะนึกถึงภาค Most Wanted ในปี 2005 ขึ้นมาทันที ทั้งการไล่ล่าจากตำรวจ การแต่งรถ ฯลฯ อีกมากมายทำให้เกม Need for Speed Most Wanted ภาคนั้นกลายเป็นตำนานไปเรียบร้อย หลายปีผ่านไปทาง EA จึงได้มีสารให้ Criterion Game ผู้พัฒนา Burnout มาปลุกผีภาคนี้ใหม่อีกครั้ง หมายเหตุ ตัวเกมที่จะมารีวิวในวันนี้จะเป็นเกมในเวอร์ชั่น PS Vita ซึ่งภาพจะดรอปจากตัวเกมในเวอร์ชั่นคอนโซล แต่ยังคงมีเกมเพลย์และองค์ประกอบอื่นที่เหมือนกันอยู่ เกมเพลย์ เกมเพลย์ของเกม Need for Speed Most Wanted ในภาคนี้ยังคงสไตล์เกมขับรถ Open World เน้นขับมันส์ๆ ซิ่งๆ ดริฟต์ไปดริฟต์มาหนีตำรวจเช่นเดิม รวมเข้ากับเกมเพลย์สไตล์ Burnout ที่เด่นในการขับรถชนกัน ตัวเกมด้านระบบควบคุมนั้นทำได้ดีไม่มีติอะไร อย่างไรก็ตามในภาคนี้มีหลายจุดที่เปลี่ยนแปลงจากภาค Original คือตัวรถนั้นจะกระจายซ่อนอยู่ทั่วเมืองเต็มไปหมด (มีอยู่ 123 คัน) ทำให้เราไม่จำเป็นต้องลงสนามแข่งข้างถนนเพื่อปลดล็อครถอีกต่อไป ถ้าหาเจอรถที่ถูกใจคันไหนก็เข้าไปขับได้เลย ซึ่งจุดนี้จะผมมองว่าเป็นข้อดีคือตัวผู้เล่นสามารถเลือกขับรถคันที่ชอบได้เลยตั้งแต่เริ่มเกม โดยที่ได้สำรวจเมือง Fairhaven ไปอีกทางหนึ่งด้วย ขับรถชมวิวหนีตำหนวด แต่ใช่ว่าเราเลือกขับรถอะไรก็ได้แล้วจะไม่มีความท้าทายอะไรเลย ตัวเกมยังคงบังคับให้เราต้องไล่โค่นคู่แข่ง Most Wanted ที่มีค่าหัวสูงสุดทั้ง 10 รายให้จงได้ (แต่ไม่มีเนื้อเรื่องให้ติดตามนะ) นอกจากนี้รถแต่ละคันที่เราขับนั้นจะมี Mission เพื่อปลดล็อค Part ต่างๆ ของรถ เช่น ล้อรถ บอดี้ ตัวถัง ระบบไนตรัส และเกียร์เป็นต้น ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจะเคลียร์เกมนี้ได้ก็จะต้องเคลียร์ Mission 10 ฉากสำหรับการโค่นเหล่า Most Wanted รวมไปถึง Mission ของตัวรถแต่ละคันเอง ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 600 กว่าฉากด้วยกันเลยทีเดียวเชียว ซึ่ง Mission ที่ทาง Criterion ทำนั้นนั้นถือได้ว่า ไม่ยาก และไม่ง่ายจนเกินไป บางฉากต้องเล่นหลายรอบกว่าจะผ่านได้ อย่างไรก็ตาม Mission ของรถหลายๆ คันนั้นแลดูซ้ำๆ บ้างเหมือนกันอาจทำให้เล่นไปซักพักอาจจะเบื่อได้
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
เรื่องราวของ Killzone 2 ยังคงดำเนินเนื้อเรื่องต่อจากภาคแรกและภาค PSP การทำสงครามกับพวก Helghast ที่กำลังดุเดือด ตัวเอก Tomas Sevchenk จากหน่วย ISA ได้รับมอมหมายภารกิจให้บุกตะลุยไปในดงศัตรู ฟังดูเหมือนเนื้อจะดูธรรมดาไปนิด แต่มันก็ถูกถ่ายถอดมาด้วยกราฟิกระดับ Full HD ที่สวยงามอลังการงานสร้าง ทั้งแสงสีรายละเอียดของฉากสร้าง รายละเอียดของฝุ่นควัน รวมทั้งระบบฟิสิกส์ล้วนสร้างได้สุดยอด การเล่นก็ลื่นไหลจะมีสะดุดบ้างก็ตอนอยู่ในช่วงโหลดเล็กน้อย ส่วนเสียงประกอบก็รังสรรค์เสียงออกมาได้เยี่ยม เพลงธีมดนตรีประกอบในเกมที่ถ้าไม่บอกนึกว่าดูหนังสงครามชั้นเยี่ยมอยู่ ถ้าคุณมีเครื่องเสียงดีๆด้วยละก็ รับประกันได้ว่าต้องมีคนนึกว่ามีสงครามบนห้องนอนของคุณแน่นอน นอกจากนี้เสียงยังมีความลึกมีมิติ ซ้ายขวาระยะใกล้ไกล และสามารถบอกพิกัดของศัตรูได้ ส่วนระบบควบคุมบังคับที่ไม่แตกต่างจากเกมแนว FPS บนคอนโซลที่ใช้ปุ่มในการเล่นมากนัก แต่ที่ดูเด่นหน่อยคือการหลบเข้าที่กำบังโดยกดปุ่ม L1 ที่การหาจุดหลบเข้ามุมทำได้ดีไม่แพ้เกมแนวมุมมองบุคคลที่ 3 การควบคุมมุมกล้องก็ทำได้ดีมั่นคงไม่วูบวาบมากนัก คนที่เมามุมกล้องง่ายๆอย่างผู้เขียนเองยังนั่งเล่นได้ 2-3ชั่วโมงติดต่อกันได้อย่างไม่มีอาการเมามุมกล้องเท่าไรนัก ตัวเกมแบ่งออกเป็น 10 ด่านและในแต่ละด่านมีจุด Checkpoint เป็นช่วงๆตลอดทาง โดยเรามีอิสระเล็กน้อยในการเลือกวิธีการผ่านช่วงนั้นๆ นอกจากนี้ เกมมีการใช้การจับการเคลื่อนไหวของจอย PS3 มาใช้ในเกมเล็กน้อยเช่นการใช้หมุนสวิตช์ หรือวางระเบิด ในด้านการออกแบบด่านต่างๆที่มีรูปแบบไม่ซ้ำซาก เพราะมีทั้งที่โล่ง ,ที่แคบ รวมทั้งรูปแบบการเล่นที่เหมือนเป็นฉากในหนังสงคราม หรือฉากที่ต้องไล่ล่า หรือด่านที่ต้องขับขี่ยานพาหนะชนิดต่างๆ เรียกหลากหลายและไม่มีส่วนที่น่าเบื่อเลย สิ่งที่จะมองข้ามไม่ได้คือระบบอาวุธในเกมที่แม้ดูภายนอกจะดูเชยไปหน่อยเพราะอาวุธหลายชนิดในเกมมีพื้นฐานเหมือนอาวุธที่ใช้อยู่ในยุคปัจจุบันทั้งปืนกล ,ปืนไรเฟิล, ปืนไฟ ,หรือช็อตกัน และระเบิดมือ โดยมีปืนแปลกๆบ้าง เช่น ปืนไฟฟ้าหรือปืนระเบิด โดยทางทีมงานได้ใส่ใจในรายละเอียดของอาวุธเป็นพิเศษ ทุกชิ้นจึงมีความจำเป็นต่อการเล่นภายในเกมทั้งสิ้น ส่วนงานการสร้างกราฟิกของอาวุธชนิดต่างๆทำได้ดีสมจริง เพียงแต่เราสามารถพกปืนได้ครั้งละ 1 กระบอก(ไม่นับปืนพก) ทำให้เราต้องเดินหาปืนที่เหมาะสมกับการเล่น และบริหารการใช้กระสุนให้ดี ซึ่งมันก็สร้างแรงกดดันและเป็นส่วนเพิ่มความท้าทายในเกมการเล่นได้ ส่วนการซูมต้องกดปุ่ม R3(กดที่ก้านอนาล็อกขวา) โดยอาจจะต้องปรับตัวกันนิด แต่ที่ทำให้เกม Killzone 2 แตกต่างจากเกมอื่นๆ นอกจากภาพและเสียงก็คือ“ปัญญาประดิษฐ์”หรือ A.I. ของศัตรูในเกมที่ถือว่าฉลาดเป็นกรด เพราะมันไม่ได้แต่ยืนตามจุดแล้วยิง ศัตรูมีการวางแผน และปรับเปลี่ยนแผนกันตลอด เรียกได้ว่าศัตรูรู้จักรุก และรับ หรือกระทั่งเปลี่ยนแผนเพื่อลอบโจมตีฝ่ายเราได้ ยิ่งถ้ามันเห็นว่าเราเสียเปรียบมันก็จะเข้ามาซ้ำเราทันที เรียกได้ว่า ฉลาดไม่แพ้เวลาเล่นกับเซียนเกมตัวจริงกันเลยทีเดียว และ AI นับเป็นสิ่งที่ทำให้เกมท้าทายเป็นอย่างมาก แต่ถ้าจับจุดได้และวางแผนกันดีๆก็จะผ่านไปได้ เกมนี้จึงเป็นเกม FPS ที่เน้นการวางแผนควบคู่ไปกับการเดินหน้าฆ่าแหลกได้อย่างลงตัว ส่วนการออกแบบแม้ว่าศัตรูส่วนใหญ่จะใส่หน้ากากคล้ายๆกันแต่จะต่างกันไปในรายละเอียดของรูปแบบ และจะต่างกันในส่วนของเครื่องแต่งกาย โดยรายละเอียดในส่วนนี้ถือว่าทำได้ดี เห็นแม้กระทั้งรอยยับและรอยเย็บของตะเข็บ โดยมีการใส่กลิ่นไอของสงครามโลกครั้งที่ 2 ลงไปในการออกแบบได้อย่างกลมกลืน ส่วน A.I. ของฝ่ายเราที่ดูเหมือนจะเป็นตัวถ่วงนิดๆ และเมื่อมันโดนยิงจนล้มเราก็ต้องตามไปช่วย แต่ในบางจุดก็พอจะช่วยเราได้บ้าง ส่วนการออกแบบตัวละครฝ่ายเราที่ดูเป็นมนุษย์ ไม่ดูเป็นยอดมนุษย์เหมือนเกมอื่นๆ สีหน้าท่าทางก็ทำได้ดีสมจริง แต่บทดราม่าในเกมมีน้อยไปหน่อย ตามประเพณีที่เกมแนว FPS ยุคนี้ส่วนใหญ่ต้องมี คือ ระบบมัลติเพลย์เยอร์แบบ Online KillZone 2 เองก็ได้ใส่ระบบ Online ชั้นดีที่สามารถเล่นได้ถึง 32 คน แม้ระบบพื้นฐานไม่ได้แตกต่างกับเกมแนว FPS ทั่วไปนัก แต่ก็เป็นระบบที่สนุกเพราะไม่ใช่เพียงแค่เดินๆยิงๆ ต้องมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันให้ถูก การสื่อสารที่ดี รวมทั้งการปรับบางส่วนในฉากการวางยุทธโธปกรณ์ในการรบให้เหมาะสมจะส่งผลต่อการเล่น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มค่าความสามารถของตัวละครตามประเภทของทหารที่เลือก และสามารถนำมาผสมกันกลายเป็นซูเปอร์ทหารได้ ยิ่งถ้าได้เล่นกับเพื่อนๆเป็นทีมผ่านระบบ clan เกมจะสนุกขึ้นหลายเท่า ที่สำคัญมันยังให้บริการ“ฟรี” อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีโหมดเล่นมัลติเพลย์เยอร์แบบ offline ด้วยการเล่นกับบอทด้วยเช่นกัน สรุปแล้วเกม KillZone 2 ที่เมื่อดูจากภายนอกคอเกม FPS อาจจะบอกว่าไม่แตกต่างจากเกมอื่นๆ แต่อยากให้คุณลองสัมผัสดู เพราะอย่างน้อยกราฟิกในเกมที่สุดยอดจนอาจจะเรียกได้ว่าเป็น FPS ที่งานด้านภาพดูดีที่สุดบนคอนโซล ระบบต่างๆในเกมก็สนุกเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะเสียงและดนตรีประกอบที่มีส่วนสร้างความมันสะใจให้กับเกมมาก ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ Killzone2 เป็นหนึ่งในแนวหน้าของเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งได้ และเป็นหนึ่งในเก เอ็กซ์คลูซีฟ ของ PS3 ที่ทำได้สมราคาคุย ถ้าคุณเป็นเจ้าของเครื่อง PS3 แล้ว ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะมีเกมนี้วางอยู่บนชั้นวางเกมของคุณ ข้อดี : ภาพและเสียงสุดยอด , AI ที่ฉลาดเป็นกรด ข้อเสีย : ระบบพื้นฐานไม่ต่างจากเกมแนว FPS ทั่วไปนัก สรุปสั้นๆ: หนึ่งในเกม PS3 ที่คุณต้องมี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)